ธรรมชาติ

                                             

วันจันทร์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2554

การแกะสลักผักและผลไม้ไทย

ศิลปะการแกะสลักของไทยเป็นที่รู้จักอย่างดีและเลื่องชื่อไปทั่วโลก การแกะสลักผักและผลไม้ไทยเป็นส่วนหนึ่งของศิลปะการแกะสลักไทยอันน่าอัศจรรย์ ซึ่งเป็นกรรมวิธีของการอาหารไทยสมัยโบราณโดยใช้ผักและผลไม้สดนานาชนิดแกะสลักเป็นดอกไม้และสัตว์หิมพานต์สำหรับนำมาประดับตกแต่งจานอาหารและในงานเลี้ยงสังสรรค์ในบรรยากาศแบบไทยๆ โดยเฉพาะในพระราชวัง





อาหารไทยเพื่อสุขภาพ

อาหารไทยจัดว่าเป็นหนึ่งในอาหารสุขภาพของโลก ในอาหารไทยเต็มไปด้วยสมุนไพรหลากหลายชนิดอย่างเช่น ข่า , ขิง , พริก , ขมิ้น , พริกไทยอ่อน , กระชาย , กะเพรา , ตะไคร้ , โหระพาและอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งสมุนไพรเหล่านี้มีแอนตี้ออกซิแดนท์ที่จะช่วยปกป้องคุณจากสารพิษต่างๆ และเพิ่มภูมิต้านทานอนุมูลอิสระ ขิง นั้นดีต่อระบบไหลเวียนโลหิต ลดแก๊สและรักษาโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร ตะไคร้ ช่วยลดไข้และรักษาอาการหวัด พริก ช่วยทำให้ร่ายกายสดชื่นกระปรี้กระเปร่า นอนหลับสบาย เจริญอาหาร แล้วยังช่วยรักษาระดับอินซูลินและกลูโคสในร่างกาย ในอาหารหลายจานสิ่งที่ขาดไม่ได้คือ กะทิ ซึ่งมีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ซึ่งชาวตะวันตกส่วนใหญ่มักจะขาดกรดไขมันชนิดนี้ กะทิ ในปริมาณที่เหมาะสมช่วยลดคลอเรสเตอรอลที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและส่งเสริมการทำงานของคลอเรสเตอรอลดี ขมิ้น นั้นได้รับการยอมรับจากวงการยาสมุนไพรระดับสากล ว่าเป็นยาสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาอาการป่วยในช่องท้องและโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับกระเพาะอาหาร จากงานวิจัยรักษาโรคมะเร็งล่าสุด สมุนไพรขมิ้นยังมีประโยชน์ในการลดการเจริญ เติบโตของเซลมะเร็งได้อีกด้วย



ผักสมุนไพรไทย ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
(ในอาหาร 100 กรัม)
พริกไทยอ่อน 103.24
รากผักชี 16.78
กระเทียม 9.38
ขมิ้น 1,126.12
ผงกะหรี่ 145.03
พริกขี้หนูแห้ง 74.78
ผิวมะกรูด 88.44
ข่า 103.81
กระชาย 63.38
ขิง 183.32
พริกชี้ฟ้าแดง 91.80
ใบกะเพา 319.32
ใบโหระพา 129.47
หอมแดง 10.56

10 อันดับอาหารไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในต่างประเทศ

ครัวไทยเข้าสู่ความเป็นหนึ่งในการอาหารยอดนิยมที่สุดในโลกและได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง ครัวไทยคืองานศิลปะที่รังสรรค์ความเป็นไทยแท้ด้วยการผสมผสานรสชาติหลักของอาหารคือเผ็ดร้อน , เปรี้ยว , หวานและเค็มด้วยเครื่องปรุงและสมุนไพรนานาชนิดที่ดีต่อสุขภาพ รสชาติที่ผสมผสานเข้ากันอย่างลงตัวทั้งสี่รสในแต่ละจานทำให้บรรดาชาวต่างชาติจากทั่วโลกต่างติดอกติดใจ อาหารไทยคาวหวานแบบดั้งเดิมนั้น มีความละเอียดละอ่อนในการปรุงและการตกแต่งที่วิจิตรบรรจงอย่างเช่น การแกะสลักผักและผลไม้ ซึ่งนำมาใช้ประดับตกแต่งอาหารบ่อยครั้ง โดยเฉพาะอาหารตำรับชาววัง

ไม่นานมานี้ ด้วยความร่วมมือระหว่างกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้ประกาศสิบอันดับรายการอาหารไทยที่ชาวต่างชาติชื่นชอบมากที่สุด ซึ่งจากการสำรวจร้านอาหารไทยทั่วโลกของทางสำนักงานฯ ผลการสำรวจแบบสอบถามในร้านอาหารไทยหนึ่งพันแห่งทั่วโลก สิบอันดับรายการอาหารไทยที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในต่างประเทศคือ



อันดับ 1. ต้มยำกุ้ง





อันดับ 2. แกงเขียวหวานไก่





อันดับ 3. ผัดไทย





อันดับ 4. ผัดกะเพรา





อันดับ 5. แกงเผ็ดเป็ดย่าง





อันดับ 6. ต้มข่าไก่





อันดับ 7. ยำเนื้อ





อันดับ 8. หมูหรือไก่สะเต๊ะ





อันดับ 9. ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์





อันดับ10. แกงแพนง

อาหารพื้นบ้านภาคใต้

 แกงไตปลา  

                  เครื่องปรุง
  1. กะปิ
  2. ปลาย่าง
  3. พุงปลาที่หมักได้ที่แล้ว
  4. น้ำ เกลือ น้ำตาล ใบมะกรูด มะนาว
  5. ผักสด เช่น มัน ฟักทอง มะเขือเทศต่างๆ หน่อไม้
  6. เครื่องแกงมีพริกแห้ง หอม กระเทียม ตะไคร้ ข่า พริกไทย ขมิ้น นำมาโขลกให้ละเอียด
                  วิธีทำ
  1. นำพุงปลามาทำให้สะอาดโดยเอาขี้ปลาออกให้หมด
  2. นำพุงปลาที่สะอาดแล้วมาซาวด้วยเกลือพอประมาณ
  3. นำพุงปลาซาวเกลือใส่ขวดแก้วหรือใส่กระปุก ปิดฝาให้มิดชิดทิ้งไว้ 3-4 สัปดาห์
  4. เปิดออกดูจะได้กลิ่นหอมเปรี้ยว นำไปแกงได้ชนิดของพุงปลา
     * พุงปลาช่อนนำมาทำเป็นไตปลา ให้รสชาติหอมมันอร่อยมากที่สุด พุงปลากระดี่
ภาษาพื้นบ้านเรียกว่า ขี้ดี  ให้รสชาติขมหอมอร่อยมาก   พุงปลาโดยทั่วไปจะทำจาก
ปลาทูหรือปลารัง *

                  วิธีปรุง
  1. นำพุงปลาตั้งไฟให้เดือด เทกรองเอาเฉพาะน้ำ เติมน้ำตามสมควรตั้งไฟให้เดือด
  2. ใส่เครื่องแกง เดือดได้ที่เติมเครื่องปรุง น้ำตาล น้ำมะนาว กะปิ
  3. ใส่ปลาย่าง ผักสด


อาหารพื้นบ้านภาคกลาง

แกงส้มมะรุมกับปลาช่อน

ส่วนผสม
1. ปลาช่อน 1 ตัวFood-Central-AA15
2. มะรุมปอกเปลือกแล้วตัดเป็นชิ้นๆ
3. น้ำปลา น้ำมะขามเปียก

เครื่องปรุงพริกแกงส้ม
1. ข่าหั่นฝอย 1 ช้อนชา
2. พริกแห้ง 7 เม็ด
3. หอมแดง 4 หัว
4. กระเทียม 4 กลีบ
5. กะปิ 1 ช้อนชา
6. เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. นำปลาช่อนมาต้ม แล้วแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งหั่นเป็นชิ้นประมาณ ½ นิ้ว อีกส่วนแกะเอาแต่เนื้อ
2. นำเครื่องปรุงพริกแกงส้มทั้งหมดมาโขลกให้ละเอียด แล้วนำเนื้อปลาส่วนที่แกะเนื้อไว้โขลกรวมกันไปด้วย
3. นำหม้อใส่น้ำตั้งไฟให้เดือด ปรุงรสด้วยน้ำส้มมะขาม น้ำปลา ชิมให้ออกรสชาติเปรี้ยวนำ
4. ใส่ปลา ใส่มะรุมลงไปขณะเดือด ปิดฝายกลง

อาหารพื้นบ้านภาคอีสาน

หมกหน่อไม้

เครื่องปรุง

-หน่อไม้ ½ กิโลกรัม (500 กรัม)is13
-ข้าวเหนียว 4-5 ช้อนโต๊ะ (60-70 กรัม)
-กระเทียม 3 หัว (90 กรัม)
-หอมแดง 4 หัว (20 กรัม)
-พริกแห้ง 15-20 เม็ด (15 กรัม)
-ตะไคร้ 2-3 ถ้วย (60 กรัม)
-ต้มหอม 4 ต้น (20 กรัม)
-ใบแมงลัก 2 กำมือ (50 กรัม)
-ใบย่านาง 1 กำมือ (15 กรัม)

วิธีทำ

1. ล้างใบย่านาง ให้สะอาด นำมาโขลกกรองเอาแต่น้ำ 1 ถ้วยตวง
2. แช่ข้าวเหนียวไว้ในน้ำสะอาด
3. ใช้ส้อมขูดหน่อไม้ให้เป็นเส้น ๆ นำไปต้มในน้ำสะอาดจนหล่อไม้สุก ช้อนหน่อไม้ขึ้นพักไว้
4. นำข้าวเหนียวที่แช่น้ำได้ที่แล้วมาโขลกรวมกับ พริกแห้ง พะไคร้ หอมแดง ผสมกับน้ำย่านางที่เตรียมไว้ กรองเอาแต่น้ำให้ได้สัก 1 ถ้วยตวง นำน้ำไปต้มพร้อมกับใส่หน่อไม้ลงไปพอเดือดยกลง
5. ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้า 1-2 ช้อนโต๊ะ เหยาะน้ำปลาโรงเกลือป่น 1 ช้อนชา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
6. นำหน่อไม้ที่คลุกด้วยเครื่องปรุงแล้วหอใส่ใบตองแล้วนึ่งด้วยไปแรงจัด

อาหารพื้นบ้านล้านนา

น้ำพริกแคบหมู


คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่่น้ำพริกแคบหมู
 
            น้ำพริกแคบหมู เป็นน้ำพริกที่มีลักษณะค่อนข้างแห้ง ชนิดของพริกที่นิยมใช้คือ พริกหนุ่ม หรือพริกดิบ บ้างใส่พริกขี้หนูด้วย แล้วแต่ชอบ บ้างนิยมนำกระเทียมย่างไฟก่อนนำมาปรุง (สุมาลี ทะบุญ, สัมภาษณ์, 27 มิถุนายน 2550)
 
 
ส่วนผสมน้ำพริกแคบหมู
1. แคบหมู 50 กรัม
2. พริกหนุ่มย่างไฟ 20 เม็ด
3. กระเทียม 10 กลีบ
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
 
วิธีทำำน้ำพริกแคบหมู  
คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่
1
คลิ๊กเพื่อดูรูปใหญ่
2
 
1. โขลก เกลือ กระเทียม และพริกเดือยย่างไฟ รวมกันให้ละเอียด
2. ใส่แคบหมู ลงโขลกรวมกัน